Posted on 0 comments

Passive income กับการเกษตร

Passive income” หมายถึงรายได้ ที่เราไม่จำเป็นต้องไปลงมือกระทำมันทุกวันแล้วได้เงิน เช่น มีบ้านให้เช่า มีที่ดินให้เช่า ในหนึ่งเดือนเราก็เพียงแค่ไปเก็บเงินค่าเช่าจากคนเช่า(บางทีก็โอนบัญชีเอา) แล้วเราก็ไปดูแลกรณีที่มีปัญหาบางครั้งบางคราวเท่านั้น อย่างนี้จะเรียกว่า passive income ครับ

ส่วน “Active income” หมายถึงรายได้ที่ต้องลงมือลงแรงกระทำถึงจะได้เงินมา เช่น อาชีพรับจ้าง รับบริการ เป็นต้น ซื่งถ้าหากเราหยุดทำงานเราก็จะไม่ได้เงิน

ผมก็เป็นคนนึงที่หลงไหลรายได้แบบ Passive income (ขณะนี้ก็พอมีเข้ามาอยู่้บ้าง แต่ยังน้อยอยู่) เพราะมันสามารถทำให้เรามีรายได้เข้ากระเป๋าตลอดเวลา แม้กระทั่งเวลาเราไปเที่ยว หรือเกิดเจ็บป่วยขึ้นมา แต่การจะได้มาซื่งทรัพย์สินที่จะสร้าง Passive income ได้ เราก็ต้องหาเงินแบบต้องลงแรงอย่าง Active income ก่อนครับ

สำหรับนักธุรกิจส่วนใหญ่อาจจะไม่ได้มองว่า การเกษตร เป็น passive income เพราะต้องลงมือทำ ต้องดูแลอะไรหลายๆอย่าง แต่สำหรับผม มันก็มีพืชบางชนิด ที่เป็น passive income ได้เหมือนกัน เพียงแค่เราลงมือปลูกไว้ แล้วดูแลเฉพาะช่วงแรกๆ เมื่อต้นไม้ตั้งตัวได้ เราก็ไม่ต้องไปดูแลอะไรมาก นานๆไปทีอาจจะเป็นเดือนละครั้ง 2 เดือนครั้ง หริอ 3 เดือนครั้ง ก็ได้

แปลงไม้ยืนต้น
แปลงไม้ยืนต้น

พืชที่ออกแนว Passive income ก็เช่น พืชตระกูลไม้ยืนต้น อย่างไม้สัก ยางนา ตะเคียน ไม้แดง มะค่า พะยูง มะฮอกกานี ต้นไม้เหล่านี้ จะมีมูลค่าสูงมากในอนาคต เพราะว่าป่าแทบไม่เหลือแล้ว แต่ความต้องการใช้ไม้เหล่านี้ไม่เคยลดลง ..มีคนเคยคำนวณว่าต้นไม้ 1 ต้นจะโตให้เราวันละ 3 บาท ต้นไม้อายุ 20 ปี มีทั้งหมดกี่วัน ไร่นึงปลูกได้กี่ต้นก็คูณเข้าไป แต่ผมว่าจริงๆมูลค่ามันจะมากกว่านั้นในอนาคต อย่างพะยูงทุกวันนี้เป็นที่นิยมมากราคาท่อนเล็กๆเป็นแสน ราคามันยั่วยวนใจให้มอดไม้ไปตัดเอาจะหมดอยู่แล้ว

ไม้ยืนต้นเหล่านี้เมื่อตั้งตัวได้มันจะโตเร็ว เป็นร่มเป็นป่าทำให้ไม่ต้องได้รดน้ำอะไรเลย หญ้าก็ตัดเฉพาะช่วงแรกๆ และถ้าปลูกแบบผสมผสานก็แทบไม่ต้องใส่ปุ๋ยเลย สำหรับไม้ยืนต้นก็ถือเป็น passive income ที่ระยะยาวหน่อย ต้องเป็น 5 ปี 10 ปี 20 ปี ถึวจะตัดได้ แต่ถ้าตัดมาแล้วผลตอบแทนก็คุ้มเพราะเราไม่ได้ดูแลอะไรมาก

passive-income

ผลไม้บางชนิดก็เป็น passive income ได้เหมือนกัน อย่างต้นมะขาม ต้นลำไย ต้นมะม่วง ผมปล่อยทิ้งไว้ เมื่อถึงเวลาถึงฤดูกาล ก็ไปเก็บเกี่ยวเอามากิน มาขาย ว่างก็ใส่ปุ๋ยคอกบ้าง แล้งเกินก็รดน้ำบ้าง สรุปก็คือทำงานปีนึงไม่กี่ครั้ง จะมองว่าเป็น Passive income มั้ย นั้นก็แล้วแต่คนมองอีกที แต่สำหรับผมการปลูกพืชแบบปลอดสาร และเลียนแบบธรรมชาตินั้นคือ Passive income ชั้นดีเลยเพราะสามารถสร้างได้ทั้งอาหารและเงินให้เราครับ ^__^

เขียนโดย ต้อม เป็นไทฟาร์ม
วันที่ 20/12/2558

Leave a Reply