การเกษตรเรื่องมันสำปะหลังระบบน้ำหยด
- การเตรียมดิน
- การลงทุนระบบน้ำหยด
- ข้อดีของการใช้ระบบน้ำหยด
- การเตรียมท่อนพันธุ์
- การปลูกและดูแลรักษา
รองพื้นด้วยแกลบ มูลไก่ 40 กระสอบต่อไร่ (หรือประมาณ 400 กิโลกรัมต่อไร่ ) จากนั้นให้ทำการหว่านปุ๋ยเคมีเสมอ (15-15-15) ประมาณ 25 กิโลกรัมต่อไร่ แล้วไถกลบด้วยผาล3 และแปรด้วยผาล7 เมื่อเสร็จแล้วให้ทำการวางระบบน้ำหยด โดยวางสายน้ำหยดระยะ 150×40 ซม.
อุปกรณ์มีดังนี้ สายน้ำหยด,ท่อพีวีซี,หัวปลาไหล,วาล์วปิด-เปิด,ปั๊มน้ำและไฟฟ้าหรือเครื่องคูโบต้า ต้นทุนในการวางระบบประมาณ 6,000 บาทต่อไร (ไม่รวมปั๊มน้ำ) มีอายุการใช้งาน 3-5 ปี แล้วจึงค่อยเปลี่ยนสายใหม่
1. สามารถปลูกมันได้ตลอดทั้งปี
2. ปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น
3. ลดต้นทุนการผลิต จากเดิมปลูกปีละ 5-6 ครั้ง จึงได้เก็บเกี่ยวผลผลิต เมื่อใช้ระบบน้ำหยดลดลงมาเหลือ 3 ครั้ง
4. ผลิตมีคุณภาพ ขายได้ราคาดีขึ้น
ควรเลือกท่อนพันธุ์ที่มีอายุประมาณ 8-12 เดือน และต้องเป็นท่อนพันธุ์ที่ใหม่และสด มีความสมบูรณ์สูงไม่มีโรคและแมลง ตัดหัวและโคนทิ้งระมาณ 10-20 ซม. จากนั้นตัดท่อนพันธุ์เป็นท่อน ๆ ละ 25 ซม. แล้วจึงนำไปปลูก
วิธีปลูก นำท่อนพันธุ์ที่เตรียมไว้มาปักตั้งตรงลึกไม่เกิน 5 ซม. ไม่ควรปักเฉียงเพราะจะทำให้รากออกข้างเดียว หลังจากนนั้นทำการรดน้ำทันที โดยในช่วงแรก ๆ 2-3 วันค่อยรดหนึ่งครั้ง และในแต่ละครังควรรดน้ำประมาณ 2-3 ชั่วโมง และเมื่อต้นมันสำปะหลังตั้งตัวได้จะให้น้ำทุก ๆ 7 วัน การดูแลรักษา ในช่วงอายุ 1-3 เดือนแรกควรให้ปุ๋ยทางน้ำเสริมด้วย โดยใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 25-5-5 ผสมกับน้ำปล่อยไปตามระบบน้ำหยดเดือนละครั้ง เพื่อช่วยบำรุงต้นและใบ หลังจากอายุได้ประมาณ 4-5 เดือน ให้ใช้ปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 ปริมาณ 25 กิโลกรัมต่อไร่ และเมื่ออายุได้ 6-7 เดือน ให้เปลี่ยนมาเป็นปุ๋ยสูตร 12-4-40 เพื่อช่วยเรื่งหัวเร่งแป้ง