ความรู้การเกษตรทั่วไปเรื่องสบู่ดำ
สบู่ดำ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Jatropha Curcas Linn เป็นพืชพลังงานชนิดหนึ่งซื่งสามารถมาสกัดทำเป็นน้ำมันดีเซลได้ เดิมเป็นพืชพื้นเมืองของทวีปอเมริกาใต้ นำเข้ามาในประเทศไทยในช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาโดยชาวโปรตุเกส
ลักษณะเป็นไม้พุ่มยืนต้นขนาดกลาง มีความสูง 2 ถึง 7 เมตร อายุยืนไม่น้อยกว่า 20 ปี ลำต้นและยอดคล้ายละหุ่ง แต่ไม่มีขน อยู่ในวงศ์ไม้ยางพารา เมื่อหักลำต้น ส่วนยอดหรือส่วนก้านใบจะมียางสีขาวขุ่นคล้ายน้ำนมไหลออกมา มีกลิ่นเหม็นเขียว
ออกดอกเป็นช่อกระจุกที่ข้อส่วนปลายของยอดขนาดดอกเล็กสีเหลืองมีกลิ่นหอมอ่อนๆ มีดอกตัวผู้จำนวนมากและดอกตัวเมียจำนวนน้อยอยู่บนต้นเดียวกัน
ผลและเมล็ด เมล็ดสบู่ดำมีสารพิษเรียกว่า CURCIN หากบริโภคแล้วทำให้เกิดอาการท้องเดินเหมือนสลอด เมื่อติดผลแล้วมีสีเขียวอ่อนเกลี้ยงเกลาป็นช่อพวงมีหลายผล เวลาสุกแก่จัดมีสีเหลืองคล้ายลูกจันทร์ รูปผลมีลักษณะทรงกลมขนาดปานกลาง เปลือกหนาปานกลาง ผลหนึ่งส่วนมากมี 3 พู โดยแต่ละพูทำหน้าที่ห่อหุ้มเมล็ดไว้ เมล็ดสีดำขนาดเล็กกว่าเมล็ดละหุ่งพันธุ์ลายขาวดำเล็กน้อย สีตรงปลายเมล็ดมีจุดสีขาวเล็กๆ ติดอยู่ เมื่อเก็บไว้นานจุดนี้จะหดตัวเหี่ยวแห้งลงขนาดของเมล็ดเฉลี่ย ความยาว 1.7 ถึง 1.9 เซ็นติเมตร หนา 0.8 ถึง 0.9 เซ็นติเมตร ในจำนวน100เมล็ดน้ำหนักประมาณ 69.8 กรัม เมื่อแกะเปลือกนอกสีดำออกจะเห็นเนื้อในสีขาว
ประโยชน์จากการเกษตรสบู่ดำ
ยางจากก้านใบ ใช้น้ำยางใสป้ายรักษาโรคปากนกกระจอก รักษาแผลในปาก แก้ปวดฟัน แก้ลิ้นเป็นฝ้าขาว โดยผสมกับน้ำนมมารดาป้ายลิ้น และมีคุณสมบัติห้ามเลือด
ลำต้น ผ่าสับเป็นท่อนต้มน้ำให้เด็กแช่น้ำอาบแก้โรคซางในเด็ก แก้โรคคันได้ แก้โรคพุพอง ใช้เป็นแนวรั้วป้องกันสัตว์เลี้ยง เข้ามาทำลายผลผลิต
เมล็ด ใช้บำรุงรากผม สามารถเอาใบสบู่ดำห่อข้าวสุกแล้วหมกขี้เถ้าให้เด็กกินแก้ตาแฉะ หรือนำมาห่ออิฐร้อนนาบท้องในหญิงคลอดบุตรอยู่ไฟสมัยก่อน โดยล่าสุดพบว่านำมาสกัดใช้ทดแทนน้ำมันดีเซลได้ คาดว่าในอนาคตจะมีการใช้ไบโอดีเซลจากน้ำมันสบู่ดำมาทดแทนน้ำมันดีเซลเมากขึ้น โดยใช้กากที่เหลือจะการสกัดจะมีธาตุอาหารหลัก มากกว่าปุ๋ยหมักและมูลสัตว์หลายชนิด สามารถใช้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ได้